ปั๊ง...ปั๊ง....ปั๊ง...ง...ง!! เสียงประทัดดังรัวมาแต่ไกล
ช่วงเทศกาลตรุจจีนทีไร...เรามักจะได้ยินเสียงแบบนี้เป็นประจำจนกลายเป็นความเคยชินไปซะแล้ว แต่...เพื่อนๆเคยสงสัยกันบ้างหรือเปล่าล่ะจ๊ะว่าทำไมถึงจุดประทัดวันตรุษจีนมีประวัติความเป็นมาและความหมายอย่างไรกันหนอ...วันนี้เพื่อนๆ คงจะต้องร้องอ๋อ เพราะเรามีคำตอบมาให้แล้วจ้า
ในสมัยโบราณที่ประเทศจีนมีตัวประหลาดเรียกว่า "ซาน เซียว" รูปร่างคล้ายคนแคระแต่วิ่ง เร็วมาก ทุกปีเวลาใกล้ปีใหม่ตัวซานเซียวจะมาโขมยของกินในหมู่บ้าน ชาวบ้านจะวิ่งขับไล่แต่ไม่ทัน หรือถ้าทันจับตัวซานเซียวได้ ผู้ที่จับต้องตัววานเซียวก็จะเจ็บป่วยทำให้คนไม่กล้าสู้กับตัวซาน เซียว วันหนึ่งชาวบ้านออกไปตัดไม้ไผ่ และหุงข้าวโดยเอาปล้องไม้ไผ่เป็นฟืนระหว่างที่กำลังหุง ข้าวอยู่นั้น ตัวซานเซียวกลุ่มหนึ่งก็มาพบและตรงเข้ามาจะหยิบข้าวของกิน ชาวบ้านต่างตกตะลึง ด้วยความกลัว ทันใดนั้นปล้องไม้ไผ่ที่โดนไฟก็ประทุระเบิดเสียงดัง ตัวซานเซียวทั้งกลุ่มสะดุ้งตกใจพากันหยุดนิ่งไม่กล้าเข้ามา ชาวบ้านจึงโยนปล้องไม้ไผ่เข้าที่กองไฟอีก เกิดเสียงปล้อง ไม้ไผ่แตกดัง เป็นระยะๆ พวกซานเซียวก็พากันวิ่งหนีไปด้วยความหวาดกลัว
ตั้งแต่นั้นมาเมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ที่พวกตัวซานเซียวจะลงมาขโมยของกิน ชาวบ้านก็จัดหาปล้องไม้ไผ่ไว้เป็นจำนวนมากและเอาใส่กองไฟเพื่อให้เกิดเสียงประทุดังขับไล่พวกซานเซียว
ต่อมาก็ได้มีการนำดินประสิวบรรจุในปล้องไม้ไผ่เล็กๆ แล้วนำไปเผาไฟเพื่อให้ระเบิดแล้วเป็น ควัน เพื่อขับไล่ตัวซานเซียวและภูตผีร้ายตลอดจนสรรพโรคภัยต่างๆ และมักจุดในช่วงเทศกาลปีใหม่
วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น