“ 640K ought to be enough for anybody”
แค่ 640 กิโลไบต์ก็เพียงพอสำหรับทุกๆคนแล้ว
Bill Gates in 1981, talking about computer memory
(Founder of Microsoft Corp.)
“Never let formal education get in the way of your learning”
ไม่เพียงแต่การศึกษาในระบบที่จะเป็นหนทางแห่งการเรียนรู้
Mark Twain (Writer)
“It’s easy to play any musical instrument: all you have to do is touch the right key at the right time and the instrument will play itself.”
มันเป็นอะไรที่ง่ายมากที่จะเล่นดนตรี คุณจะต้องเล่นให้ตรงคีย์และตรงเวลา แล้วดนตรีก็จะเล่นกับคุณเอง
Johann Sebastian Bach (Composer)
“Twenty years from now you will be more disappointed by the things that you didn’t do than by the ones you did.”
20 ปีต่อจากนี้ คุณจะผิดหวังจากสิ่งที่คุณไม่ได้ทำมากกว่าคุณทำ
Mark Twain (Writer)
“Wise men talk because they have something to say; fools talk because they have to say something.”
คนที่ฉลาดเขาจะพูดเพราะว่าเขามีบางสิ่งบางอย่างที่อยากพูด คนโง่จะพูดเพราะอยากพูดเท่านั้น
Plato (Greek Philosopher)
“I am not afraid to die. I just do not want to be there when it happens.”
ฉันไม่กลัวที่จะตาย แต่ฉันก็ไม่อยากให้มันเกิด
Woody Allen (Movie Director)
วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
มาดูภาษาบอกรักแต่ละประเทศ
• คำว่า “ฉันรักเธอ” ของแต่ละประเทศ
ภาษาพม่า เรียกว่า จิต พา เด (chit pa de)
เขมร เรียกว่า บอง สรัน โอน (Bon sro Iahn oon)
เวียดนาม เรียกว่า ตอย ยิ่ว เอ๋ม (Toi yue em)
มาเลเซีย เรียกว่า ซายา จินตามู (Saya cintamu)
อินโดนีเซีย เรียกว่า ซายา จินตา ปาดามู (Saya cinta padamu)
ฟิลิปปินส์ เรียกว่า มาฮัล กะ ตา (Mahal ka ta)
ญี่ปุ่น เรียกว่า คิมิ โอ ไอ ชิเตรุ (Kimi o ai eru)
เกาหลี เรียกว่า โน รุย สะรัง เฮ (No-rui sarang hae)
เยอรมัน เรียกว่า อิคช์ ลิเบ ดิกช์ (Ich Liebe Dich)
ฝรั่งเศส เรียกว่า เฌอแตม (Je t'aime)
ฮอลแลนด์ (ดัชต์) เรียกว่า อิค เฮา ฟาวน์ เยา (Ik hou van jou)
สวีเดน เรียกว่า ย็อก แอลสการ์ เด (Jag a Lskar dig)
อิตาลี เรียกว่า ติ อโม (Ti amo)
สเปน เรียกว่า เตอ เควียโร (Te quiero)
รัสเซีย เรียกว่า ยาวาส ลุยบลิอู (Ya vas Liubliu)
โปรตุเกส เรียกว่า อโม-เท (Amo-te)
จีนกลาง เรียกว่า หว่อ อ้าย หนี่ (Wo ai ni)
จีนแคะ เรียกว่า ไหง อ้อย หงี (Ngai oi ngi)
ฮกเกี้ยน เรียกว่า อั๊ว ลู่ (Auo ai Lu)
ตุรกี เรียกว่า เซนี เซวีโยรัม (Seni Seviyorum)
ภาษาพม่า เรียกว่า จิต พา เด (chit pa de)
เขมร เรียกว่า บอง สรัน โอน (Bon sro Iahn oon)
เวียดนาม เรียกว่า ตอย ยิ่ว เอ๋ม (Toi yue em)
มาเลเซีย เรียกว่า ซายา จินตามู (Saya cintamu)
อินโดนีเซีย เรียกว่า ซายา จินตา ปาดามู (Saya cinta padamu)
ฟิลิปปินส์ เรียกว่า มาฮัล กะ ตา (Mahal ka ta)
ญี่ปุ่น เรียกว่า คิมิ โอ ไอ ชิเตรุ (Kimi o ai eru)
เกาหลี เรียกว่า โน รุย สะรัง เฮ (No-rui sarang hae)
เยอรมัน เรียกว่า อิคช์ ลิเบ ดิกช์ (Ich Liebe Dich)
ฝรั่งเศส เรียกว่า เฌอแตม (Je t'aime)
ฮอลแลนด์ (ดัชต์) เรียกว่า อิค เฮา ฟาวน์ เยา (Ik hou van jou)
สวีเดน เรียกว่า ย็อก แอลสการ์ เด (Jag a Lskar dig)
อิตาลี เรียกว่า ติ อโม (Ti amo)
สเปน เรียกว่า เตอ เควียโร (Te quiero)
รัสเซีย เรียกว่า ยาวาส ลุยบลิอู (Ya vas Liubliu)
โปรตุเกส เรียกว่า อโม-เท (Amo-te)
จีนกลาง เรียกว่า หว่อ อ้าย หนี่ (Wo ai ni)
จีนแคะ เรียกว่า ไหง อ้อย หงี (Ngai oi ngi)
ฮกเกี้ยน เรียกว่า อั๊ว ลู่ (Auo ai Lu)
ตุรกี เรียกว่า เซนี เซวีโยรัม (Seni Seviyorum)
วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
ความรัก!!!(ใกล้ถึงวันวาเลนไทน์แล้วววว)
ความรักคืออะไร ? จะมีสักกี่คนที่รู้ความหมายของคำว่า "รัก" อย่างแท้จริง ไม่ใช่รักแบบหลง รักเพื่อหวังผลประโยชน์อะไรบางอย่าง รักแบบยอมทุกอย่างเพื่อคนๆเดียว ไม่ว่าจะรักพ่อ รักแม่ รักพี่ รักน้อง รักเพื่อน รักแฟน เราจะรู้ได้อย่างไรว่าความรักที่แท้จริงเป็นอย่างไร
โลกสอนให้เราเรียนรู้ว่า
อย่าเชื่อในสิ่งที่ยังไม่เห็น
อย่าเชื่อในสิ่งที่ยังไม่เคยได้สัมผัส
สิ่งที่ชั้นพบเจอกับตัวเองและเห็นจากคนอื่น
ทำไมทุกคนต้องเจ็บปวด?
อย่าหลอกตัวเองว่าไม่จริง ที่สุขก็เป็นการคิดเอาเองว่าตัวเองมีความสุข
ลองนึกดูสิว่าอีกฝ่ายหนึ่งเขาสุขกับเราด้วยหรือเปล่า.....แน่ใจเหรอ?
รัก คือการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน จริงเหรอที่ไม่หวังอะไรเลย ถ้างั้น...
คุณเสียใจทำไม เวลาที่เขาไม่มาหา เพราะคุณหวังว่า...เขาจะมา
คุณเสียใจทำไม เวลาที่เขาห่างเหิน เพราะคุณหวังว่า...เขาจะเอาใจใส่
คุณเสียใจทำไม เวลาที่เขามีคนใหม่ เพราะคุณหวังว่า...เขาจะเป็นของคุณคนเดียว
คุณเสียใจทำไม เวลาที่เขาไม่รัก เพราะคุณหวังว่า...เขาจะรัก
เหล่านี้ไม่ใช่ผลตอบแทนที่คุณหวังแล้วไม่ได้มาหรอกหรือ
มีใครบ้างที่รักแล้ว ไม่ต้องการให้...เขามาดูแลเอาใจใส่
มีใครบ้างที่รักแล้ว ไม่ต้องการให้...เขามีแต่คุณคนเดียว
มีใครบ้างที่รักแล้ว ไม่ต้องการให้...เขารักคุณบ้างเลยสักนิด
"สักนิด" / "ขอเพียงแค่นั้น" / "เท่านี้ก็พอ" / "ชั้นไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้"
เหล่านี้เป็นกำแพงที่เราสร้างขึ้น เพื่อยับยั้งความต้องการของเราเอง
การยับยั้งความต้องการ มันทรมานนะ คุณไม่รู้สึกเหรอ
มันเป็นความทรมานจากการห้ามความรู้สึกตัวเอง
หลอกตัวเองว่าอย่ารักมากไปกว่านี้เลย
ทั้งๆที่ความจริงก็รักไปแล้วหมดหัวใจ
รักและคิดถึง เมื่อรักแล้วก็ต้องคิดถึง
เวลาที่คิดถึง คุณมีความสุขหรือเปล่า
ความคิดถึงกับความโหยหา ต่างกันตรงไหน?
เวลาที่ชั้นคิดถึงใคร ชั้นแอบคิดเสมอว่าเขาจะคิดถึงชั้นอยู่บ้างไหม หรือคุณไม่เคยคิด
ดีใจด้วยกับคนที่มีความสุขกับรักที่แท้จริง
และขอให้ความรักนั้นอยู่กับคุณตลอดไป
ชั้นก็ยังแอบหวังว่ามันจะยังมีอยู่จริงในโลกใบนี้
ตอนนี้ชั้นอาจจะมองโลกแคบ ชั้นอาจจะมองโลกเพียงด้านเดียว
หลายคนอาจไม่เห็นด้วยกับความคิดของชั้น ซึ่งก็ไม่ผิด
แต่ก็คงไม่แปลกที่ชั้นคิดแบบนี้
อย่างที่บอก ชั้นไม่เชื่อในสิ่งที่ชั้นยังไม่ได้สัมผัส
"ความรัก" เหมือนกาแฟ ขมแต่ก็อร่อย
"ความรัก" เหมือนกุหลาบ สวยงามแต่ก็ทำร้าย
"ความรัก" เหมือนสายลม พัดมาเย็นสบาย แล้วก็จากไป
"ความรัก" เหมือนเปลวเทียน สว่างไสว ร้อนแรงสุดท้ายก็ดับลง
โลกสอนให้เราเรียนรู้ว่า
อย่าเชื่อในสิ่งที่ยังไม่เห็น
อย่าเชื่อในสิ่งที่ยังไม่เคยได้สัมผัส
สิ่งที่ชั้นพบเจอกับตัวเองและเห็นจากคนอื่น
ทำไมทุกคนต้องเจ็บปวด?
อย่าหลอกตัวเองว่าไม่จริง ที่สุขก็เป็นการคิดเอาเองว่าตัวเองมีความสุข
ลองนึกดูสิว่าอีกฝ่ายหนึ่งเขาสุขกับเราด้วยหรือเปล่า.....แน่ใจเหรอ?
รัก คือการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน จริงเหรอที่ไม่หวังอะไรเลย ถ้างั้น...
คุณเสียใจทำไม เวลาที่เขาไม่มาหา เพราะคุณหวังว่า...เขาจะมา
คุณเสียใจทำไม เวลาที่เขาห่างเหิน เพราะคุณหวังว่า...เขาจะเอาใจใส่
คุณเสียใจทำไม เวลาที่เขามีคนใหม่ เพราะคุณหวังว่า...เขาจะเป็นของคุณคนเดียว
คุณเสียใจทำไม เวลาที่เขาไม่รัก เพราะคุณหวังว่า...เขาจะรัก
เหล่านี้ไม่ใช่ผลตอบแทนที่คุณหวังแล้วไม่ได้มาหรอกหรือ
มีใครบ้างที่รักแล้ว ไม่ต้องการให้...เขามาดูแลเอาใจใส่
มีใครบ้างที่รักแล้ว ไม่ต้องการให้...เขามีแต่คุณคนเดียว
มีใครบ้างที่รักแล้ว ไม่ต้องการให้...เขารักคุณบ้างเลยสักนิด
"สักนิด" / "ขอเพียงแค่นั้น" / "เท่านี้ก็พอ" / "ชั้นไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้"
เหล่านี้เป็นกำแพงที่เราสร้างขึ้น เพื่อยับยั้งความต้องการของเราเอง
การยับยั้งความต้องการ มันทรมานนะ คุณไม่รู้สึกเหรอ
มันเป็นความทรมานจากการห้ามความรู้สึกตัวเอง
หลอกตัวเองว่าอย่ารักมากไปกว่านี้เลย
ทั้งๆที่ความจริงก็รักไปแล้วหมดหัวใจ
รักและคิดถึง เมื่อรักแล้วก็ต้องคิดถึง
เวลาที่คิดถึง คุณมีความสุขหรือเปล่า
ความคิดถึงกับความโหยหา ต่างกันตรงไหน?
เวลาที่ชั้นคิดถึงใคร ชั้นแอบคิดเสมอว่าเขาจะคิดถึงชั้นอยู่บ้างไหม หรือคุณไม่เคยคิด
ดีใจด้วยกับคนที่มีความสุขกับรักที่แท้จริง
และขอให้ความรักนั้นอยู่กับคุณตลอดไป
ชั้นก็ยังแอบหวังว่ามันจะยังมีอยู่จริงในโลกใบนี้
ตอนนี้ชั้นอาจจะมองโลกแคบ ชั้นอาจจะมองโลกเพียงด้านเดียว
หลายคนอาจไม่เห็นด้วยกับความคิดของชั้น ซึ่งก็ไม่ผิด
แต่ก็คงไม่แปลกที่ชั้นคิดแบบนี้
อย่างที่บอก ชั้นไม่เชื่อในสิ่งที่ชั้นยังไม่ได้สัมผัส
"ความรัก" เหมือนกาแฟ ขมแต่ก็อร่อย
"ความรัก" เหมือนกุหลาบ สวยงามแต่ก็ทำร้าย
"ความรัก" เหมือนสายลม พัดมาเย็นสบาย แล้วก็จากไป
"ความรัก" เหมือนเปลวเทียน สว่างไสว ร้อนแรงสุดท้ายก็ดับลง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)